งานคุณภาพ

R2Rปี2556

ชื่อเรื่อง การประเมินการให้นมบุตรโดยใช้ LATCH Score
ชื่อผู้วิจัย สันทนา   ศรีพรหม
หน่วยงาน หอผู้ป่วยใน3 รพร.ด่านซ้าย
ที่มา
             อาหารธรรมชาติที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารก คือ น้ำนมแม่ องค์การอนามัยโลกให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวเป็นเวลา 6 เดือน ประเทศไทยตามแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 9 กำหนดให้มารดาทุกคนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30  ซึ่งทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายทำได้ร้อยละ 47.2 ปี2555(ข้อมูลจากงานเวชปฏิบัติครอบครัว) หอผู้ป่วยใน 3 ให้การดูแลมารดาและทารกหลังคลอด หน่วยงานให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามนโยบายโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ซึ่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายได้ผ่านการประเมินระดับทอง ปี2551 และได้รับการรับรองซ้ำปี2554 ในการดูแลมารดาหลังคลอดพบกระบวนการผลิตน้ำนมแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกตั้งแต่ตั้งครรภ์ 16-22 สัปดาห์ ร่างกายจะผลิตหัวน้ำนมในปริมาณเล็กน้อย ช่วงที่ 2 หลังคลอดถึง2-3 วัน ช่วงนี้สำคัญมาก เนื่องจากมีฮอร์โมนต่างๆที่เกี่ยวข้องกระตุ้นให้มีการสร้างฮอร์โมนที่ช่วยในการสร้างน้ำนมในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ในช่วงนี้การให้ลูกดูดนมอย่างสม่ำเสมอ โดยการดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี จะทำให้การหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยการสร้างน้ำนมอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ดังนั้นภายใน 2-3 วันแรกที่อยู่โรงพยาบาลเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประสบความสำเร็จ
             การคัดเกณฑ์การประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีหลายเกณฑ์ โดยมีเป้าประสงค์ของการประเมินในรายละเอียดที่แตกต่างกัน เกณฑ์ที่ใช้อาจประเมินในทารก หรือประเมินจากทั้งมารดาและทารก ซึ่งเกณฑ์ที่มีการศึกษาวิจัยในแต่ละเกณฑ์จะมีรายละเอียดที่ใช้วัด เกณฑ์ที่บ่งบอกถึงการกินนมแม่ที่ได้ดีที่สุดคือ การได้ยินเสียงกลืนน้ำนม1
             LATCH Score เป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นโดยผู้ที่สร้างเครื่องมือ คือ Jenzenและ Collraguse สำหรับใช้บันทึกประสิทธิภาพของการให้นมบุตรแทนการรายงานตามคิดเห็นของตนเอง ทำให้ง่ายต่อการประเมิน เครื่องมือจะระบุประเด็นหลักของการให้นมบุตรอย่างมีประสิทธิภาพ ชี้สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ช่วยให้รู้แนวทางแก้ไข และสามารถที่จะอธิบายประเด็นที่เป็นปัญหาให้กับมารดาได้ แบ่งระดับเป็น 0 1 2 คะแนน ประกอบด้วยหัวข้อ คือ การอมหัวนมของทารก เสียงดูดกลืนน้ำนม ลักษณะของหัวนมมารดา ความรู้สึกสบายในขณะให้นม และการอุ้มทารก2 มีการศึกษาคะแนน LATCH มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาการเลี้ยงด้วยนมแม่ 6 สัปดาห์และใช้ติดตามตามช่วยเหลือมารดาที่หยุดนมแม่ในระยะแรกจากการเจ็บเต้านมหากคะแนนการประเมินในทารกอายุ 16-24 ชั่วโมงมากกว่า 8 3
             ที่ผ่านมาวิธีการประเมินการให้นมบุตรไม่ชัดเจน ยังเป็นความคิดเห็นของตนเอง ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขได้ตรงจุดและขาดประสิทธิภาพ ดังนั้นบทบาทของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานจึงมีส่วนสำคัญในการสนับสนุน ช่วยเหลือ แก้ไข ให้มารดามีความสามารถในการให้นมบุตรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  หน่วยงาน จึงได้นำหลักการประเมิน   LATCH Score  มาใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินประสิทธิภาพของการให้นมบุตรมารดาหลังคลอดทุกราย

วัตถุประสงค์
             เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน
             เพื่อใช้ประเมินการให้นมบุตรแก่มารดาหลังคลอด
             เพื่อเป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือให้มารดาให้นมบุตรอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
ระเบียบการวิจัย
             เป็นการวิจัยเชิงทดลองที่เป็นกลุ่ม (Group Designs in Experimental Research) โดยศึกษากลุ่มเดียวกันวัดหลังการทดลอง(The One-shot Case Study) ศึกษามารดาหลังคลอดทั้งหมดที่รับไว้ในหอผู้ป่วยหลังคลอดโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายปี พ.ศ. 2554 ถึง 30 มิ.ย. 2556 จำนวน 2,610 ราย โดยเครื่องมือคือคะแนนประเมินLATCH Score ≥8 ในวันจำหน่ายวัดเป็นอัตราร้อยละของมารดาหลังคลอดทั้งหมดในปี พ.ศ.54,55,56

วิธีดำเนินการ
             การประเมินการให้นมบุตรของมารดาหลังคลอดจากเดิมไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน  ประเมินตามความคิดของตัวเอง การประเมินไม่ต่อเนื่องครอบคลุม ทำให้การช่วยเหลือแก้ไข ทำได้ไม่ตรงตามปัญหาของแต่ละรายบุคคล ปี 2552 จึงได้มีการนำ LATCH Score มาประเมิน ในกิจกรรม Roundนมแม่ทุกเวร(ทุก 8 ชั่วโมง)  และทุกเช้าร่วมกับสูติแพทย์ มีการปรับแบบบันทึกทางการพยาบาลให้สามารถบันทึกคะแนน LATCH Score ในแต่ละตัว(L-A-T-C-H) ทุกเวรเพื่อให้การดูแลช่วยเหลือแก้ไขมารดาแต่ละรายตามคะแนนLATCH Score ตัวที่ต่ำได้ตรงตามปัญหาเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม( Self health group) เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจให้มารดา มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเจ้าหน้าที่ให้การดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนกระทั่งจำหน่าย เพื่อให้มีคะแนนLATCH Score≥ 8 ในวันจำหน่าย สรุปคะแนนที่ได้ใน OPD Card และ PCT D/C Planปี54 เก็บตัวชี้วัดคะแนนLATCH Scoreจนถึงปัจจุบัน  ในวันจำหน่าย เมื่อมีLATCH Score ≤7  คะแนนลงบันทึกในทะเบียนติดตามเยี่ยมทางโทรศัพท์ โดยติดตามภายหลังจำหน่าย 1 วัน เพื่อประเมินและให้คำปรึกษาเพิ่มเติมเมื่อกลับบ้านจนกว่าสิ้นสุดปัญหาหรือส่งต่อ รพ.สต.,รพ.ใกล้เคียง กรณีที่ต้องติดตามต่อ



ประเมิน
2
1
0
1 L” = Latch
  (การเลีย, การอม)
แนวเหงือกลูกวางอยู่บนกระเปาะน้ำนมของแม่  ลิ้นวางใต้ราวนม ริมฝีปากทั้ง 2 บานออกดูดเป็นจังหวะ
ต้องพยายามหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จับหัวนมแม่ไว้ในปากลูก  ลูกจึงดูดนมแม่ได้ ลูกอมเฉพาะปลายหัวนม
ลูกง่วงมากไม่ยอมดูดไม่อมหัวนม
2 A” = Audible
   (เสียงการกลืนนม)
ได้ยินเสียงกลืนเป็นช่วง ๆ
นาน ๆ กลืนครั้ง และกลืนเฉพาะเมื่อมีการกระตุ้น
ไม่ได้ยินเสียงกลืน
3 T” = Type of
  (ลักษณะหัวนมแม่)
หัวนมยื่นออกมาดีขณะอยู่เฉย ๆ หรือหลังจากการกระตุ้น
หัวนมแบนหรือยื่นเล็กน้อย
หัวนมบุ๋มเข้าไป
4 C” = Comfort
     (ความ สบาย)
เต้านมนุ่ม ยืดหยุ่นดี หัวนมปกติ , แม่รู้สึกสบาย
แม่ปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง
แม่ไม่สบายมาก และเต้านมคัดตึงมาก
5 “H” = Hold
    ( การอุ้มลูก)
ท่าอุ้มถูกต้อง เจ้าหน้าที่ไม่ต้องช่วย
แม่ต้องการความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ในการจัดท่า 1 ข้าง อีกข้างทำได้เอง
เจ้าหน้าที่ต้องให้ความช่วยเหลือแม่ทุกอย่างในการอุ้มลูกกินนม

หมายเหตุ ตารางการประเมินโดย สมาคมเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์

ผลการวิจัย
             มารดาหลังคลอดทุกรายได้รับการประเมินโดยใช้เครื่องมือเดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการประเมิน การประเมินเป็นรูปธรรมชัดเจน ครอบคลุมมากขึ้น สามารถระบุสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ช่วยให้รู้แนวทางแก้ไขปัญหาของมารดาแต่ละราย  มีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องทุกเวร ทุกวันจนกระทั่งจำหน่ายเพื่อการสนับสนุนและช่วยเหลือให้มารดาให้นมบุตรอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
 อัตรามารดาหลังคลอดมี LATCH Score≥8 คะแนนวันจำหน่าย ปี54,55,56 เท่ากับ ร้อยละ84.8ร้อยละ96ร้อยละ98 และอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือน ก่อนพัฒนาร้อยละ33 หลังพัฒนา(3ปีเฉลี่ย)ร้อยละ 47.2 (ข้อมูลจากงานเวชปฏิบัติครอบครัว)


การนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในงานประจำ
             พบว่าหลังจากการนำหลักการประเมิน LATCH Scoreมาใช้ในการประเมินความพร้อมในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในหน่วยงาน ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน ง่ายต่อการประเมิน ประเมินเป็นรูปธรรมชัดเจน ครอบคลุมและต่อเนื่องมากขึ้น สามารถสนับสนุนและช่วยเหลือแก้ไขได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

บทเรียนที่ได้รับ 
             การให้นมบุตรจะประสบผลสำเร็จมีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายอย่าง ทั้งตัวมารดา,บุตร,ครอบครัว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ดูแล การที่จะช่วยเหลือให้มารดาสามารถให้นมบุตรได้ มารดาต้องมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายจิตใจ มีเจตคติที่ดีและมีความตั้งใจที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ บุตรให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่มีความรู้ ทักษะ ให้เวลา ให้กำลังใจ ในการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มารดามีความเชื่อมั่น มั่นใจ ที่จะผ่านช่วงเวลาดังกล่าวนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เช่นสื่อโฆษณานมผสมที่เชิญชวนให้หลงเชื่อว่านมผสมมีคุณค่าเทียบได้กับนมแม่ อาชีพและรายได้ ที่มีผลต่อความประสบผลสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ                                                     
             หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลทั้งหมด ตั้งแต่งานฝากครรภ์ที่ให้ข้อมูล ความรู้แก่หญิงตั้งครรภ์ให้เห็นความสำคัญ ประโยชน์ของนมแม่ ห้องคลอดดูแลให้ลูกดูดนมเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธีตั้งแต่อยู่ที่ห้องคลอด และต่อเนื่องมาจนกระทั่งหลังคลอด โดยเจ้าหน้าที่มีความรู้ ทักษะ มีความเชี่ยวชาญในการช่วยเหลือแก้ไขอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ อย่างต่อเนื่องเป็นรายบุคลหรือรายกลุ่ม มารดามีโอกาสได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลาตลอดจนเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น รพ.สต. รพ.ใกล้บ้าน
การสนับสนุนที่ได้รับจากผู้บริหารหน่วยงาน/องค์กร  
             โรงพยาบาลมีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยได้รับการสนับสนุนด้านการประสานภาคีเครือข่ายในด้านวิชาการ การให้อิสระในการทำงาน รวมถึงให้ขวัญกำลังใจในการทำงาน
โอกาสพัฒนา
             จัดทำเสียงตามสายเชิญชวนให้นมบุตรพร้อมกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นมบุตรบ่อยขึ้นและเจ้าหน้าที่ประเมินได้ดีขึ้น
             ประสานรพ.สต.หรือรพ.ใกล้เคียงในการติดตามดูแลต่อ
จัดหาจิตอาสานมแม่ให้ความรู้แก่หญิงตั้งครรภ์ที่เข้ารร.พ่อแม่
             เพิ่มช่องทางในการติดตามและให้มารดาติดต่อ-สอบถามปัญหาได้ เช่น ตั้งกลุ่ม Face book หลังคลอด
เอกสารอ้างอิง
1.www .guruobgyn.com/tag/latch-score-การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
2.WWW.msd.bankok.go.th
3.(Piordan). Bibb D, Miller M,Rawlins T. Predicting breastfeeding,duration using the LATCH  breastfeeding assessment tool.J Hum Lact 2001;17:20-3
4.Kumar SP, Mooney R, wiser LJ, Havstad S. The LATCH Score system and prediction of breastfeeding duration. J Hum Lact 2006;23:391-7.
5.แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 9
6.องค์การอนามัยโลก (WHO)
7.โรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น